ประกันรถยนต์ 2+ คืออะไร และเหมาะกับใคร คำถามสำคัญที่ใครหลายคนยังคงสงสัย

ประกันรถยนต์ 2+ คืออะไร และเหมาะกับใคร คำถามสำคัญที่ใครหลายคนยังคงสงสัย

ปฏิเสธไม่ได้ว่าประกันภัยรถยนต์คือสิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งที่หลายคนใครทำมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะในระหว่างที่คุณกำลังขับขี่อยู่ หรือในระหว่างที่คุณจอดรถไว้เฉย ๆ ก็ตาม แต่การจะซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ก็ดูเหมือนเป็นอะไรที่แพงเกินตัว เพราะฉะนั้นแล้ว ประกันรถยนต์ 2+ คือตัวเลือกที่ดูจะเข้าท่ามากที่สุดในตอนนี้ แต่ประกันภัยชนิดนี้คุ้มครองอะไรบ้างละ วันนี้เราจะมาพาทุกคนมาทำความรู้จักกัน 

ประกันรถยนต์ 2+ คืออะไร เรามาทำความรู้จักกัน 

ประกันรถยนต์2+ คือประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 1 ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองบุคคลภายนอก และความคุ้มครองจากภัยพิบัติไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม พายุ แผ่นดินไหว และไฟไหม้ นอกจากนี้ตัวประกันยังให้ความคุ้มครองไปถึงกรณีที่รถสูญหาย หรือถูกโจรกรรม แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปจากประกันชั้น 1 คือราคาค่าเบี้ยประกันที่ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะถูกกว่าหรือแพงกว่าประกันภัยชั้น 2 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

ประกันรถยนต์ 2+ ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง 

คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถ

แน่นอนว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุตัวแทน ประกันรถยนต์ 2+ ประกันจะเข้ามาจัดการให้ทันทีไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายที่ถูก หรือผิดก็ตาม และนอกจากนี้ประกันภัยชั้น 2+ ยังให้ความคุ้มครองทั้งฝ่ายผู้เอาประกัน และฝ่ายคู่กรณีทั้งในค่าการรักษาพยาบาล และค่าซ่อมแซมรถ 

คุ้มครองในกรณีที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวรถ ประกันรถยนต์ 2+ ยังให้ความคุ้มครองในส่วนนี้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว พายุ และไฟไหม้ ประกันภัยชั้น 2+ จะเข้ามาคุ้มครองและชดเชยให้ทั้งหมด 

คุ้มครองรถยนต์สูญหาย

ในกรณีที่รถยนต์เกิดสูญหาย ประกันรถยนต์จะเข้ามาช่วยคุ้มครองในส่วนนี้ ซึ่งประกันจะเลือกชดใช้ตามทุนประกันที่เราเลือกเอาไว้ หากผู้ใช้จอดรถไว้ในที่ที่ปลอดภัย ประกันภัยชั้น 2+ จะจ่ายค่าชดเชยให้เต็มจำนวนทันที 

อย่างที่เห็นแล้วว่า ประกันรถยนต์ 2+ ถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมความคุ้มครองที่อาจจะเกิดขึ้นต่อตัวรถยนต์ของคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการชน การสูญหาย และการเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งตัวประกันเองก็มีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่าประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 อีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วประกันภัยชนิดนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ประมาท มีความเชี่ยวชาญในการขับขี่รถที่สูง จึงคุ้มค่าและประหยัดค่าเบี้ยประกันไปได้มากกว่าครึ่ง แต่จะสังเกตได้ว่าประกันชนิดนี้จะไม่คุ้มครองในกรณีที่มีการเฉี่ยวชนสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่ใช่คู่กรณีเช่น ต้นไม้ ประตู กำแพง เป็นต้นเพราะฉะนั้นแล้วหากคุณยังเป็นคนที่กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ควรเลือกทำประกันภัยชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองคุ้มค่ามากกว่า 

Yvonne Howard

Related Posts