ด้วยคำว่า “เงินๆ ทองๆ ” เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับใครหลายๆ คนเพราะเงินเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตของทุกๆ คนอยู่แล้ว ซึ่งการจะหาเงินนั้นก็ย่อมมาจากการทำงานเป็นหลักถูกมั้ยหล่ะครับ ซึ่งต้องอาศัยทั้งแรงกายแรงใจร่วมกันทุกๆ ด้าน ซึ่งหากเรามีที่พึ่งทางใจที่ดีก็ย่อมทำให้เรามีการงาน การเงินที่ราบรื่นนั้นเองครับ วันนี้เราจึงอยากขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “4 เครื่องรางเกี่ยวกับการเงิน” เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาเราไปชมกันดีกว่าครับ
4 เครื่องรางนำโชคด้านการเงินที่น่าสนใจ
●ฮก ลก ซิ่ว เทพเจ้าของจีนที่มีตำนานเล่าขานมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งปัจจุบันเทพทั้ง 3 องค์ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ มั่งคั่ง และอายุยืน หากใครบูชาต้องบูชาให้ครบทั้ง 3 องค์ ห้ามเลือกเพียงองค์ใดองค์หนึ่ง เพราะทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
●ต่อเงินต่อทอง ต่อเงินต่อทองก็ต้องเป็นเครื่องรางที่หลายคนนึกถึงแน่นอน เพราะนี่คือเครื่องรางที่หลายคนเชื่อว่าช่วยนำโชคด้านเงินทอง ทำงานหรือธุรกิจการค้าอะไรก็ช่วยดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จ ช่วยต่อยอดเงินและทอง หากค้าขายก็จะขายดีมีกำไร สามารถบูชาได้ทั้งรูปแบบตะกรุด สร้อยข้อมือหรือจี้ห้อยคอก็ได้ มีความเชื่อว่าการบูชาต่อเงินต่อทองครั้งแรกหรือการนำเข้าบ้านครั้งแรกต้องใช้ดอกไม้ 7 สี 7 ดอก เทียน 7 เล่มและธูป 7 ดอกจัดใส่พาน จากนั้นนำต่อเงินต่อทองวานบนพานนั้น พร้อมสวดบูชาด้วยการตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วย “นะชาลิติ อะระหัง สุสินะโส นะโมพุทธายะ” แล้วอธิษฐานขอพร
●ตะกรุดสาริกามหาลาภ สำหรับเครื่องรางนำโชคชิ้นนี้นั้นเป็นความเชื่อที่มาจากทางล้านนาโบราณ โดยเกจิอาจารย์จะทำการปลุกเสกตะกรุดสาริกาให้มีพุทธคุณนำโชคด้านเงินทอง ช่วยเรียกทรัพย์เรียกโชค โดยเฉพาะใครที่ทำธุรกิจการค้าหรือทำงานที่ต้องเจรจาพูดคุย จะสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น มีความสำเร็จด้านการเจรจา เครื่องรางชิ้นนี้จึงได้รับความนิยมในหมู่คนที่ทำมาค้าขาย วิทยากร พิธีกร นักพูด เป็นต้น
●เทพทันใจ เทพทันใจเป็นเทพที่คนไทยเชื่อกันว่าหากได้บูชาแล้วจะช่วยเสริมดวงให้ชีวิตประสบความสุข ความสำเร็จ ทำงานได้ราบรื่น อีกทั้งยังเสริมดวงโชคลาภและการเงิน โดยเป็นความเชื่อที่แพร่มาจากฝั่งเมียนมาร์ สามารถบูชาโดยตั้งองค์เทพทันใจไว้ที่บ้านหรือพกเป็นเครื่องรางนำโชคติดตัวก็ได้ วิธีบูชาให้ใช้ดอกไม้ กล้วยนาก มะพร้าวน้ำหอม ธนบัตรอะไรก็ได้ 2 ใบ ผ้าคล้องคอและร่มฉัตรกระดาษ ส่วนของที่ห้ามนำมาถวายคือเนื้อสัตว์ สามารถไหว้ได้เลยโดยไม่ต้องจุดธูปเทียน
เปรียบเทียบการลงทุนกับการออมเงิน
ลงทุนต้องทำก่อนการตัดสินใจนำเงินของเราไปลงทุนในผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุน ใด ๆ คือ การใช้เวลาศึกษาหาความรู้และทำความเข้าใจกับสิ่งนั้นอย่างถ่องแท้เสียก่อน เพราะว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น ถ้าไม่เข้าใจอย่าพึ่งเสี่ยงที่จะลงเงินเยอะๆ นั้นเองครับ แต่ในทางกลับกัน “การออมเงิน” เป็นปัจจัยพื้นฐานที่สามารถทำได้ทันทีและมีเม็ดเงินเก็บที่เป็นเงินสดนั้นเองครับ
ทำไมเราต้องประเมินความเสี่ยงก่อนลงทุน
ความเสี่ยงในการลงทุน คือ ความไม่แน่นอนหรือโอกาสที่เราจะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้จากการลงทุนนั้นๆ โดยต้องประเมินความเสี่ยงเพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท หลักๆ
●ความเสี่ยงจากตลาด (Market Risk) เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะตลาดโดยรวมที่ส่งผลกับราคาสินทรัพย์ทั้งหมดในตลาดนั้น ๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจในประเทศซบเซา อาจส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์ต่าง ๆ มีแนวโน้มลดลง
●ความเสี่ยงทางธุรกิจ (Business Risk) เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากลักษณะของธุรกิจนั้น ๆ เช่น ประเภทธุรกิจ โครงสร้างรายได้ ค่าใช้จ่ายของกิจการ ฯลฯ อาจเกิดจากปัจจัยที่กระทบเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม หรือการดำเนินงานภายในของบริษัทเอง ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และทำให้ผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดว่าจะได้รับลดลงตามไปด้วยนั้นเองครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “4 เครื่องรางเกี่ยวกับการเงิน” ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้น หวังว่าจะเป็นแนวทางในการออมเงินที่ดีดกันนะครับ
